เครื่องเสียงรถยนต์

ภัยทางด้านกฎหมาย และร่างกายของเครื่องเสียงรถยนต์

รู้หรือไม่ว่า การขับรถแล้วเปิดเพลงเสียงดังจากเครื่องเสียงรถยนต์จนสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่นในขณะที่ขับรถนั้น นอกจากจะทำให้ผู้อื่นหัวร้าน และหงุดหงิดจนมีน้ำโหแล้ว ยังผิดกฎหมายด้วยนะจะบอกให้ อะไม่เคยรู้กันล่ะสิ ว่ามีข้อกฎหมายนี้อยู่ด้วย เอาเป็นว่าเราจะมาสรุปให้ฟังกัน

ซึ่งข้อกฎหมายการขับรถแล้วเปิดเพลงเสียงดังจากเครื่องเสียงรถยนต์จนสร้างความรำคาญให้กับผู้อื่นในขณะที่ขับรถนั้น จะเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 ซึ่งได้ระบุไว้ว่า ห้าม มิให้ผู้ที่ทำการขับขี่รถ  โดยที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และความเดือดร้อนของผู้อื่น ซึ่งมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000 – 10,000 บาท ซึ่งการจับกุมนั้นพนักงานสอบสวนจะไม่สามารถเปรียบเทียบปรับได้ที่สถานีตำรวจหรือเรียกปรับต่อหน้าเจ้าหน้าที่พนักงาน ซึ่งการเปรียบเทียบปรับนั้นจะต้องดำเนินการนำขึ้นฟ้องศาลเพียงเท่านั้น !

และนอกเหนือจากเรื่องของกฎหมายแล้วการเปิดเพลงเสียงดังจากเครื่องเสียงรถยนต์ยังมีผลต่อระบบประสาทหูของเราอีกด้วย ซึ่งผลกระทบที่เราจะได้รับจากการเปิดเพลงเสียงดังจากเครื่องเสียงรถยนต์ คือ การเป็นโรคหูเสื่อมนั่นเอง เนื่องจากคนทั่วไปมีเซลล์ขนประมาณ 16,000 เซลล์อยู่ในหูชั้นในส่วนที่เรียกว่า Cochlea เสียงดังทำให้เซลล์และเยื่อหุ้มเซลล์ภายใน cochlea ถูกทำลาย การฟังเสียงดังเป็นระยะเวลานานทำให้เซลล์ขนเหล่านี้ทำงานหนักมากเกินไปและตายไปในที่สุด

ดังนั้น คุณจึงควรลดระดับเสียงลง ซึ่งระดับเสียงที่ไม่เป็นอันตรายต่อหู ก็คือ ในผู้ใหญ่ สามารถฟังระดับเสียงไม่เกิน 80 เดซิเบลเอได้ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ (เดซิเบลเอ คือ หน่วยความดังของเสียง) สำหรับเด็กสามารถระดับเสียงไม่เกิน 75 เดซิเบลได้ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หากเสียงดังกว่านั้น เวลาที่แนะนำจะลดน้อยลง เช่น ไม่ควรฟังระดับเสียง 100 เดซิเบลเอเกิน 15 นาที

แล้วหากถามว่า เกิดเป็นโรคหูเสื่อมแล้วจะรักษาได้ไหม ก็ต้องตอบเลยว่ายาก เพราะภาวะสูญเสียการได้ยินจากเสียงดังมักเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในตอนแรกผู้ป่วยจะไม่รู้สึกผิดปกติใดๆ จนกว่าเซลล์ขนจะถูกทำลายไป 30 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์จึงจะพบได้ด้วยการตรวจการสูญเสียการได้ยิน ดังนั้นเมื่อคุณสังเกตว่าการได้ยินผิดปกติไป เซลล์ขนเหล่านี้ได้ถูกทำลายอย่างถาวรไปแล้ว ไม่สามารถรักษาให้กลับมาเหมือนเดิมได้นั่นเอง

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว คุณก็ควรลดระดับเสียง หรือลดการใช้งานลง เพื่อถนอมและรักษาหูของคุณให้ได้ยินเป็นปกติแบบนี้ไปนานๆ จนแก่เลยนะ

Tags: